Thursday, November 21, 2024

หมวดที่ ๒ : สมาชิก

ข้อ ๙.  สมาชิกของสมาคม แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ

๙.๑  สมาชิกสามัญ ได้แก่ ผู้ที่เป็นนักเรียนเก่าซึ่งคณะกรรมการบริหาร ได้พิจารณารับเข้าเป็นสมาชิก และผู้สมัครได้ชำระค่าจดทะเบียนเป็นสมาชิกแล้ว
๙.๒  สมาชิกกิตติมศักดิ์  ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีอุปการคุณแก่สมาคม และโรงเรียนหอวัง ซึ่งคณะกรรมการบริหารมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เชิญเข้าเป็นสมาชิก สมาชิกสามัญอาจได้รับเชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ได้ และไม่เสียสิทธิในการเป็นสมาชิกสามัญ
๙.๓  สมาชิกสมทบ ได้แก่ นักเรียนหอวังที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือ จบการศึกษาแล้ว แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และได้ยื่นใบสมัครสมาชิกตามข้อ ๑๑ แล้ว

ข้อ ๑๐.  ผู้ที่เข้าเป็นสมาชิกสามัญต้องมีคุณสมบัติดังนี้

๑๐.๑  เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
๑๐.๒  เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เป็นที่รังเกียจของสังคม
๑๐.๓  ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงอันเป็นที่รังเกียจต่อสังคม
๑๐.๔  ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

ข้อ ๑๑.  การเข้าเป็นสมาชิก

๑๑.๑  ผู้ที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ยื่นใบสมัครสมาชิกตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการสมาคม และให้เลขาธิการสมาคมรวบรวมใบสมัครเหล่านั้น เข้าเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร หรือกรรมการเจ้าหน้าที่ผู้รับมอบจากคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาภายในกำหนด ๓๐ วัน
๑๑.๒  เมื่อคณะกรรมการ หรือกรรมการเจ้าหน้าที่ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ พิจารณารับหรือไม่รับเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ให้เลขาธิการสมาคมมีหนังสือแจ้งให้ผู้สมัครทราบ พร้อมทั้งติดประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพิจารณาเป็นสมาชิกไว้ ณ สำนักงานใหญ่ของสมาคมไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน หากล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าว ไม่มีสมาชิกผู้ใดคัดค้าน ก็ให้รับผู้สมัครนั้นเข้าเป็นสมาชิก
๑๑.๓  หากมีสมาชิกคัดค้านการรับเข้าเป็นสมาชิก ให้ผู้คัดค้านทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมด้วยเหตุผล เสนอต่อเลขาธิการสมาคม ภายในกำหนดเวลาตามที่ประกาศไว้ในข้อ ๑๑.๑
๑๑.๔ แล้วให้เลขาธิการสมาคมนำเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง คณะกรรมการอาจเชิญผู้ถูกคัดค้านหรือผู้คัดค้านมาชี้แจงเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็นก็ได้ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหาร ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด

ข้อ ๑๒.  สมาชิกมีสิทธิ์ดังนี้

๑๒.๑  เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ ประชุมใหญ่วิสามัญ และเฉพาะสมาชิกสามัญเท่านั้นที่มีสิทธิ ออกเสียงลงคะแนนได้คนละ ๑ เสียง และมีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็น กรรมการบริหาร
๑๒.๒  สมาชิกสามัญ ที่ร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรจำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๔ ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด มีสิทธิที่จะร้องขอต่อคณะกรรมการบริหาร เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานบัญชีต่างๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน และกิจกรรมของสมาคมได้ในเวลาอันสมควร
๑๒.๓  เสนอความคิดเห็นในการพัฒนา และสร้างสรรค์ในกิจกรรมของสมาคมต่อคณะกรรมการบริหาร
๑๒.๔  สมาชิกมีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์ในสถานที่ของสมาคมได้ด้วยความเสมอภาค ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ และตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม
๑๒.๕  สมาชิกมีสิทธิที่จะนำบุคคลภายนอกเข้ามาใช้ประโยชน์ในสถานที่ของสมาคม หรือเข้ามาร่วมในกิจกรรมของสมาคมตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด และสมาชิกผู้นั้นต้องรับผิดชอบในความเสียหาย และความเสื่อมเสียอันเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอกเหล่านั้นทุกกรณี
๑๒.๖  ประดับเครื่องหมายของสมาคมในโอกาสอันควร

ข้อ ๑๓.  สมาชิกมีหน้าที่ดังนี้

๑๓.๑  ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบแบบแผนของสมาคม
๑๓.๒  สมาชิกสามัญ ต้องชำระค่าจดทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกคนละ ๕๐ บาท ค่าบำรุงชำระครั้งเดียว ๒๕๐ บาท คณะกรรมการบริหารอาจกำหนดให้เก็บ ค่าวารสาร ค่าบริการอื่นๆ เท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสมาคม
๑๓.๓  สมาชิกผู้ที่ได้ชำระค่าจดทะเบียนเข้าเป็นสมาชิก ค่าบำรุงสมาคม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่สมาคมไปแล้ว จะเรียกร้องเงินเหล่านั้นคืนมิได้ ไม่ว่ากรณีใด
๑๓.๔  สมาชิกผู้ใดที่ได้เปลี่ยน ยศ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่ หรือย้ายภูมิลำเนา ให้แจ้งให้นายทะเบียนทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน ๓๐ วัน

ข้อ ๑๔.  การขาดสมาชิกภาพ สมาชิกของสมาคมจะพ้นจากสมาชิกภาพเมื่อ

๑๔.๑  ตาย
๑๔.๒  ลาออก
๑๔.๓  เมื่อมีความประพฤติเป็นที่น่ารังเกียจต่อสมาชิกทั่วไป หรือมีพฤติกรรมอันน่าจะนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม และคณะกรรมการได้มีมติจำนวน ๓ ใน ๔ ของที่ประชุมคณะกรรมการให้พ้นจากสมาชิกภาพ
๑๔.๔  ไม่ชำระค่าจดทะเบียนเป็นสมาชิกภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่เลขาธิการได้แจ้งถึงการยอมรับเข้าเป็นสมาชิก และได้มีประกาศชื่อไว้ ณ สำนักงานใหญ่ของสมาคมแล้ว
๑๔.๕  สมาชิกมีหนี้สิ้นอื่นๆ ต่อสมาคม เมื่อถูกทวงถามแล้วไม่น้อยกว่าสามครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร คณะกรรมการมีอำนาจพิจารณาให้สมาชิกผู้นั้น พ้นจากสมาชิกภาพ
๑๔.๖  การลาออก สมาชิกต้องแจ้งแก่เลขาธิการสมาคมเป็นลายลักษณ์อักษร และให้เลขาธิการสมาคมนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา เมื่อสมาชิกผู้นั้นไม่มีพันธะกรณีใดที่เกี่ยวข้องอยู่กับสมาคม   และคณะกรรมการบริหารพิจารณาอนุมัติแล้ว จึงเป็นอันหมดสมาชิกภาพ
๑๔.๗  ต้องคำพิพากษาของศาลให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือสาบสูญ แล้วแต่กรณี

ข้อ ๑๕.  ในกรณีที่สมาชิกต้องพ้นจากสมาชิกภาพตามข้อ ๑๔.๓ ให้สมาชิกผู้นั้น มีโอกาสชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการด้วยตนเอง หรือเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ถ้าสมาชิกนั้นไม่ชี้แจง และสมาคมได้มีหนังสือเชิญให้ใช้สิทธิ์ชี้แจงแล้วหนึ่งครั้ง แต่สมาชิกผู้นั้นยังเพิกเฉย หรือว่าการพิจารณาเป็นการสิ้นสุด

ข้อ ๑๖.  ให้นายทะเบียนประกาศชื่อของสมาชิกที่พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อ ๑๔. ไว้ ณ สำนักงานใหญ่ ของสมาคมด้วยทุกคราว