หมวดที่ ๗ : การบัญชีและการเงิน
ข้อ ๓๙. การรับเงินทุกประเภท ให้ออกใบสำคัญการรับเงิน ประทับตราสมาคมเป็นสำคัญ และลงรายมือชื่อผู้รับเงิน และเหรัญญิกด้วย การจ่ายเงินทุกรายการต้องมีใบสำคัญของสมาคม ซึ่งได้รับอนุมัติจากนายกสมาคม หรือผู้ที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นหลักฐาน ทั้งสองกรณีต้องมีผู้ลงชื่อรับเงินด้วย
ข้อ ๔๐. นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) การสั่งจ่ายเงินเกินกว่าจำนวนนี้ ต้องเป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารเป็นรายๆไป
ข้อ ๔๑. เงินทุกประเภทที่สมาคมได้รับต้องนำฝากธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่ เชื่อถือได้ ในนามสมาคม เหรัญญิกจะเก็บรักษาตัวเงินสดไว้ที่สำนักงานได้ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ส่วนที่เกินมานั้น ให้นำฝากธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่คณะกรรมการบริหารเห็นชอบ ภายใน ๗ วันทำการ
ข้อ ๔๒. การฝากหรือถอนเงินของสมาคม ต้องกระทำในนามสมาคม การถอนเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ต้องมีนายกหรืออุปนายกคนใดคนหนึ่ง ลงชื่อร่วมกับเหรัญญิกหรือเลขาธิการจึงจะถอนเงินได้ และการสั่งจ่ายเงินทุกครั้งต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่ออนุมัติของ นายกสมาคมหรืออุปนายกสมาคม
ข้อ ๔๓. บรรดาเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคเพื่อเก็บดอกผลบำรุงกิจการใดของสมาคม ต้องดำเนินการตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค จะนำไปใช้ในกิจการอื่นไม่ได้
บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่ หรือได้รับบริจาค หรือมีผู้อุทิศให้เป็นสมบัติของสมาคม จะต้องมีทะเบียนและลงบัญชีเป็นทรัพย์สินของสมาคมให้ถูกต้อง ทรัพย์สินดังกล่าวนี้ จะขาย แลกเปลี่ยนหรือให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือจำหน่ายออกจากบัญชีไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่สามัญด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์
ทั้งนี้ ไม่รวมทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคเพื่อบำเพ็ญทาน
ข้อ ๔๔. หลักฐานการรับเงิน การจ่ายเงิน ต้องเก็บรักษาไว้เพื่อการตรวจสอบตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาเอกสารต้องรายงาน และได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะทำลาย เอกสารได้
ข้อ ๔๕. ผู้สอบบัญชี ต้องได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ไม่เป็นผู้อยู่ในคณะกรรมการบริหาร และต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย หากผู้สอบบัญชีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยเหตุใดก็ตาม ให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจ แต่งตั้งผู้สอบบัญชีได้เป็นการชั่วคราว